ISSN: 1906-117X

วารสาร

การพัฒนาทักษะการฟังและพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุกแบบผสมผสาน

The Development of English Speaking and Listening skills of Grade 3 students through Blended Active learning
ขอบเขต: หลักสูตรการสอน

นิศราภรณ์ ชาติโสม

โรงเรียนอนุบาลบางละมุง

ทัศนี วรรณทอง

พลธาวิน วัชรทรธำรงค์

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อการพัฒนาทักษะการฟังและพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุกแบบผสมผสาน (Blended Active learning) และ 2) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรม การเรียนรู้เชิงรุกแบบผสมผสาน (Blended Active learning) กลุ่มเป้าหมายในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ซึ่งเรียนวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐานในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 จำนวนประชากร 31 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1. แผนการจัดการเรียนรู้ 2. แบบฝึกทักษะการสะกดคำสระเสียงยาว (Long vowel sounds) 3. แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์การสะกดคำสระเสียงยาว (Long vowel sounds) ใช้วัดผลก่อนเรียนและหลังเรียน จำนวน 1 ชุด และ 4. แบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย (%) และร้อยละ (x ̅) ผลการวิจัย พบว่า 1) ผลจากการพัฒนาทักษะการฟังและพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุกแบบผสมผสาน (Blended Active learning) พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องการสะกดคำสระเสียงยาว (Long vowel sounds) หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ทำให้ผลสัมฤทธิ์พัฒนาขึ้นเป็นไปตามที่คาดหวัง โดยผลทดสอบก่อนเรียนคิดร้อยละอยู่ที่ 42.74 ผลทดสอบหลังเรียนอยู่ที่ 57.26 และผลการพัฒนาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ ร้อยละ 33.98 2) นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุกแบบผสมผสาน (Blended Active learning) ระดับ มากที่สุด (x ̅= 4.69) โดยดูในรายละเอียดพบว่า ผู้เรียนมีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด 3 อันดับคือ คือ สื่อ นวัตกรรมมีเนื้อหาตรงตามเนื้อหาของบทเรียน (x ̅= 4.92) สื่อ นวัตกรรมทำให้นักเรียนเกิดความสนุกสนาน (x ̅= 4.91) และ สื่อ นวัตกรรมช่วยช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้และประสบการณ์ (x ̅= 4.85) ตามลำดับ ระดับความพึงพอใจที่น้อยที่สุด 3 อันดับคือ สื่อ นวัตกรรมช่วยให้เรียนรู้ได้ง่ายและจดจำได้นาน (x ̅= 4.52) สื่อ นวัตกรรมมีความหลากหลาย (x ̅= 4.49) และสื่อ นวัตกรรมช่วยส่งเสริมปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้สอนกับผู้เรียน (x ̅= 4.39) ตามลำดับ

Abstract

This research aimed to 1) develop English listening and speaking skills of Grade 3 students by using blended active learning activities. 2) study the student’s satisfaction by using blended active learning activities. The target group comprised 31 grade 2 students of Anubanbanglamung School. Banglamung District, Chonburi Province, Chonburi Office of Primary Education Service Area, in the 1st semester of academic year 2022, obtained through purposive sampling, The research instruments consisted of 1. Lesson plan 2. Long vowel sounds spelling Practice set 3. Achievement test long vowel sounds spelling, Pre-test and Post-test 1 set 4. A satisfaction questionnaire. The statistics used in data analysis were Percentage and Mean. The research findings were as follow: 1. The results of the Development of English Speaking and Listening skills of Grade 3 students through Blended Active learning revealed that students had learning achievements in English pronunciation according to Phonics principles by using pronunciation exercises. The students' learning achievement was higher than before the study. Make sure that successes follow expectations. Pre-test scores were 42.74 percent, post-test scores were 57.26 percent, and improvement scores rose to 33.98 percent. 2. The students satisfied with learning by using blended active learning activities at the highest level (x ̅= 4.69) The student had the highest level of satisfaction in the 3 ranks, Innovative media is consistent with the content of the lesson (x ̅= 4.92). Innovative media makes students have fun (x ̅= 4.91). Innovative media help learners to learn and an experience (x ̅= 4.85), respectively. The lowest level of satisfaction in the 3 ranks. Innovation media helps to learn easily and remember for a long time (x ̅= 4.53). Innovation media is diverse. (x ̅= 4.49) and innovative media promotes interaction between teachers and students (x ̅= 4.39), respectively.

คำสำคัญ

การพัฒนาทักษะการฟังและพูดภาษาอังกฤษ, นักเรียน, กิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุกแบบผสมผสาน

Keywords

The Development of English Speaking and Listening skills, Student, Blended Active learning

เอกสารอ้างอิง

จารุพร ตั้งพัฒนกิจ. (2563). วารสารบริหารธุรกิจและศิลปศาสตร์. เชียงใหม่ : ราชมงคลล้านนา
ชายุดา จันทะปิดตา. (2555). การพัฒนาทักษะการฟังภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้น
มัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบัวหลวงวิทยาคม : บุรีรัมย์.
ไชยยศ เรืองสุวรรณ. (2553). Active Learning. ข่าวสารวิชาการ. เชียงใหม่ : มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
ทัศนีย์ ทองศร. (2558). การพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้
บทบาทสมมติ. สาขาวิชาภาษาอังกฤษ. สูตรปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต
มหาวิทยาลัยนเรศวร.
ธีราภรณ์ กิจจารักษ์. (2553). ปัจจัยที่มผลต่อการพูดภาษาอังกฤษของนักศึกษาชั้นปีที่ 2. สาขาวิชา
ภาษาอังกฤษ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏในเขตกรุงเทพมหานคร. กรุงเทพ:
มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา.
ณัชนัน แก้วชัยเจริญกิจ. (2550). ภาวะผู้นำและนวัตกรรมทางการศึกษา: บทบาทของครูกับ Active
Learning. สืบค้นจาก http://www.pochanukul.com ข้อมูลเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2560.
นนทลี พรธาดาวิทย์. (2559). การจัดการเรียนรู้แบบ Active learning (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ:
ทริปเพิ้ล เอ็ดดูเคชั่น.

พุฒินาท ปัตฐานัง. (2560). การพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษโดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบสะกดคำ
ประกอบการเรียนรู้แบบ. มหาวิทยาลัยสารคาม.
พรสวรรค์ สีป้อ. (2550). สุดยอดวิธีสอนภาษาอังกฤษ นำไปสู่การจัดการเรียนรู้ของครูยุคใหม่. กรุงเทพฯ:
อักษรเจริญทัศน์.กลุ่มร่วมมือเทคนิค TAI การเรียนรู้ภาษาอังกฤษด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย
มยุรา วิริยเวช. (2559). บทบาทของผู้ปกครองคนไทยในการส่งเสริมทักษะการฟังและการพูด
ภาษาอังกฤษสำหรับเด็กปฐมวัย:
กรณีศึกษา ในโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทย. กรุงเทพฯ :มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
ฤทัยรัตน์ ศรีพวงมาลัย (2561) การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ด้านการฟังภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ
โดยการจัดการเรียนรู้ผ่านพอดคาสต์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนหนองกุงศาลาน้้าเที่ยงวิทยากร.กรุงเทพ: มหาวิทยาลัยศิลปกร
วาสนา สิงห์ทองลา. (2555). การพัฒนาทักษะการฟังภาษาอังหฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาเพื่อการสื่อสาร. วารสารศึกษาศาสตร์.
มหาวิทยาลัยขอนแก่น.

Jordan, M. (2007). What a podcast is - and everything you need to know about
podcasting. Retrieved from http://www.americanchronicle.com/articles/viewArticle.asp?articleID=47099
Krashen, Stephen D. and Terrell, Tracy D. (1983). The Natural approach. Oxford :
Pergamon Press.
Garnham, C., & Kaleta, R. (2002). Introduction to hybrid courses. Teaching with
Technology Today, 8(6). Retrieved May 5, 2015, from http://www.uwsa.edu/ttt/articles/garnham.htm